ธุรกิจออนไลน์ การเตรียมความพร้อมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระบบธุรกิจที่ได้ลงทุนดำเนินการ

ธุรกิจออนไลน์ การเตรียมความพร้อมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระบบธุรกิจที่ได้ลงทุนดำเนินการ

สิ่งที่จะทำให้การดำเนินการระบบ ธุรกิจออนไลน์ ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งเป้าหมายในการเลือกสินค้าหรือการให้บริการมาให้ลูกค้าได้เกิดการตัดสินใจเลือกใช้บริการเพื่อแลกเปลี่ยนเงินปัจจัยสำคัญในการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการของลูกค้าจะได้รับไปนั้น ในการเตรียมความพร้อมเรื่องของการทำธุรกิจที่จะต้องเจอกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการดำเนินการดูแลระบบของธุรกิจที่เปิดให้บริการอยู่กันนั้นจะต้องเข้าใจด้วยว่าระบบธุรกิจในสมัยนี้เองมีการสร้างฐานธุรกิจอยู่ภายในระบบอินเทอร์เน็ตออนไลน์ ทำให้การดำเนินการดูแลระบบธุรกิจต่าง ๆ นั้นจะต้องไม่ลืมว่าถึงมีความสะดวกในการเข้าถึงการบริการแต่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นก็มีโอกาสเกิดได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน

ในการดำเนินการให้บริการบนระบบ ธุรกิจออนไลน์ ที่กำลังเปิดระบบให้เลือกใช้บริการกันนั้นจะเข้าใจได้ทันทีสำหรับการดำเนินการที่เปิดระบบให้ทางเว็บไซต์ที่ลูกค้านั้นสามารถเลือกดูสินค้า บริการที่มีให้เลือกได้ตลอดทั้งวันการเปิดระบบให้เลือกสินค้าบนเว็บไซต์นี้เองยิ่งทำให้จะต้องมีการจัดเตรียมระบบของการให้บริการเอาไว้อย่างเหมาะสมเพื่อให้การดำเนินการนั้นมีรูปแบบที่สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้ตลอดเวลาในความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ในเว็บไซต์ธุรกิจที่เปิดให้บริการนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบรวน การกดคำสั่งที่ผิดพลาด หรือการเข้าถึงเว็บไซต์ธุรกิจที่เปิดให้บริการไม่สามารถเข้าร่วมได้นั้นจะต้องได้รับการแก้ไขทันทีเพื่อดำเนินการระบบธุรกิจต่อไปได้

การเจอความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนระบบ ธุรกิจออนไลน์ ที่มีให้บริการกันนั้นการดำเนินการลงทุนทำธุรกิจรูปแบบนี้เองจะต้องมีการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเพื่อให้การดำเนินการของระบบธุรกิจที่เปิดให้เข้าร่วมใช้บริการนั้นได้ลดปัญหาที่พบเจอไปได้ไม่ยากในความเข้าใจระบบธุรกิจที่ดูแลด้วยตัวเองทั้งหมดเองก็ยิ่งทำให้เข้าใจเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นกันได้ไม่ยากเมื่อในสมัยนี้เองการบริการบนระบบออนไลน์ กำลังเป็นที่ต้องการเลือกใช้บริการมากขึ้นจากความสะดวกในการบริการที่เมื่อเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นแล้วในการพัฒนาระบบของธุรกิจที่มีให้บริการเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญจะต้องไม่ลืมที่จะปรับปรุงให้เหมาะสมในการบริการของลูกค้าที่เลือกเข้าใช้กัน

ความสำคัญของการต่อภาษีรถยนต์

ยุคปัจจุบันมีการซื้อขายรถยนต์เป็นจำนวนมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นหรือเหตุผลอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญที่ตามมาคือ “การต่อภาษีรถยนต์” หรือเรียกง่ายๆ คือการต่อทะเบียนในแต่ละปี ภาษีรถยนต์ตัวนี้มีความสำคัญมากขนาดไหน แล้วถ้าจะต่อภาษีง่ายที่สุดสามารถทำได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

ทำไมต้องต่อภาษีรถยนต์” อาจจะเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัย ซึ่งคำตอบที่ได้มาแบบทั่วๆ ไป ก็คือเป็นการทำตามกฎหมาย แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป การใช้รถบนท้องนั้นจะก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของถนนหนทาง รวมไปถึงต้องสร้างถนนเส้นใหม่ เพิ่มเติม

การจ่ายภาษีรถยนต์ก็เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนหน่วยงานคมนาคมให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และทำถนนหนทางทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงปรับปรุงการคมนาคมอื่นๆ

ถ้าไม่ต่อจะเป็นอย่างไร

หากละเลยการต่อภาษีรถยนต์ย่อมถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนใช้รถควรรู้ แต่ถ้าหาไม่ต่อภาษีจะมีกฏหมายที่้เข้ามาดูแลดังนี้

เสียค่าปรับ

ตามปกติแล้วการต่อภาษีสามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนทะเบียนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน แต่ถ้าต่อภาษีล่าช้าจะโดนค่าปรับ 1% ของภาษีรถยนต์ต่อเดือน ยิ่งปล่อยไว้นาน ค่าปรับก็จะยิ่งเพิ่ม หากปล่อยไว้นานอาจโดนค่าปรับย้อนหลังอ่วมได้ไม่ยาก
ถูกระงับทะเบียน

เมื่อปล่อยรถไว้นานโดยไม่ได้ทำการต่อทะเบียนเกิน 3 ปี ทางขนส่งจะดำเนินการระงับทะเบียนทันที หากจะใช้รถคันเดิมจะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่พร้อมคืนป้ายทะเบียน รวมถึงดำเนินการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลัง สำหรับรถใครที่มีการซ่อมเป็นเวลายาวนาน หรือจอดไว้ไม่ได้ใช้งาน ขนส่งก็ไม่ได้ใจร้ายสามารถยื่นแสดงการระงับใช้รถชั่วคราวล่วงหน้าที่ขนส่งได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียภาษีในช่วงนั้นๆ
เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะ

นอกจากค่าปรับแล้ว การไม่ต่อภาษีรถยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก เช่น ค่าตรวจสภาพ ค่าป้ายใหม่ เป็นต้น ยังไม่นับค่าเดินทางไปๆ มาๆ กรณีเตรียมเอกสารไม่ครบหรือโดนเรียกเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งเทียบแล้วการยื่นต่อภาษีตามปกติยังมีความคุ้มค่าเสียกว่า

โดยสรุปแล้ว ทุกคนควรดำเนินการต่อภาษีรถยนต์เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะให้ไม่ต้องเสียค่าปรับเพิ่มเติม รวมถึงประหยัดเวลาอีกด้วย
การต่อภาษีรถยนต์ทำอย่างไร

หลังจากเข้าใจความสำคัญของการต่อภาษีแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการดำเนินการซึ่งต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นก่อน ดังนี้
เอกสารที่ต้องเตรียม

หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ หรือเล่มทะเบียน
เอกสาร พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
หลักฐานการผ่านการตรวจสภาพรยนต์ แต่ถ้าหากขาดต่อภาษีเกิน 3 ปีจะต้องมีเอกสารเพิ่ม ดังนี้
สำเนาบัตรประชาชน
หลักฐานการระงับทะเบียน (กรณียื่นขอระงับ)
เอกสารอื่นๆ ตามที่ขนส่งต้องการ

วิธีการต่อภาษี

ยื่นขอคำขอต่อทะเบียนรถ (หรือจดทะเบียนใหม่) ณ สถานที่ที่รับต่อภาษีรถยนต์ เช่น กรมขนส่งทางบก ไปรษณีย์
ดำเนินการตรวจสภาพรถ ณ จุดที่กำหนด (หากดำเนินการนอกขนส่ง จำเป็นต้องขอเอกสารตรวจสภาพรถก่อน)
ชำระเงินค่าธรรมเนียม
รับหลักฐานการเสียภาษี (และป้ายทะเบียน หากเป็นกรณีจดใหม่)

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าหากคุณขาดการต่อภาษีไปเป็นเวลานานเกิน 3 ปี จะต้องไปดำเนินการที่ขนส่ง การต่อ พ.ร.บ. ตรวจสภาพก็เช่นกัน และทางขนส่งอาจมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับการใช้รถ หลังจากนั้นก็สามารถต่อภาษีได้แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดความสับสนสำหรับผู้ใช้รถมือใหม่คือเข้าใจว่าภาษีรถยนต์ (หรือการต่อทะเบียน) และการต่อพ.ร.บ. นั้นเหมือนกัน แต่จริงๆ ไม่ใช่

ความแตกต่างระหว่างภาษีกับพ.ร.บ.

ภาษีรถยนต์ คือ ค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนต้องดำเนินการชำระทุกปี ทำนองเดียวกับภาษีเงินได้หรือภาษีโรงเรือน เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปดูแลรักษาระบบคมนาคมและภาคส่วนอื่นๆ

พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ชื่อเต็มว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คือการทำประกันภัยรถยนต์ขั้นต้นที่ผู้ใช้รถทุกคนจำเป็นต้องทำ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งจะให้การช่วยเหลือในแง่ค่ารักษาและค่าชดเชยอื่นๆ

สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองอย่างนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างมากหากต้องซื้อรถสักคัน